เพจเฟซบุ๊ก “ลุงทนายใจดี ปรึกษากฎหมายฟรี” ได้โพสต์ข้อความแจ้งเตือนประชาชนว่า สำเนาบัตรประชาชนรุ่นปัจจุบัน ไม่ควรถ่ายด้านหลังบัตรของเราไปพร้อมกับด้านหน้าเด็ดขาด
เพราะไม่อย่างนั้นอาจเสี่ยงถูกกลุ่มมิจฉาชีพนำไปสวมรอยได้ เพราะด้านหลังบัตร จะมีชุดตัวเลข เรียกว่า Laser ID ที่ภาครัฐจะบังคับใช้ ในการทำธุรกรรม ตรวจสอบ ยืนยันตัวตน ควบคู่กับเลขบัตรประชาชน 13 หลัก โดยระบุว่า
ด้านหลังบัตรจะมีชุดตัวเลข เรียกว่า Laser ID ซึ่งปัจจุบันภาครัฐ เช่น สรรพากร, ตำรวจ, กระทรวงฯ, กรมฯ ต่างๆ รวมถึงภาคการเงินบังคับใช้ Laser ID นี้ในการทำธุรกรรม ตรวจสอบ ยืนยันตัวตน ควบคู่กับเลขบัตรประชาชน 13 หลัก เรียกว่า e-KYC (Electronic – Known Your Client)
APP ที่เกี่ยวข้องกับเงินหรือกระเป๋าเงินอิเลคทรอนิกค์ (Wallet) ต้องใช้ทั้งหมด (แบงค์ชาติควบคุม) หากข้อมูลหน้าบัตรประชาชนหลุดไปก็อันตรายมากพอแล้ว ยิ่งข้อมูล Laser ID หลุดไปด้วย ยิ่งอันตรายเป็นทวีคูณ เหมือนเลขบัตรเครดิตหลุดไปพร้อมกับ CVV หลังบัตร
ทั้งนี้ หากสถานที่ไหนไม่เข้าใจ ยืนยันว่าต้องถ่ายบัตรหน้าหลัง ให้เราถ่ายจากบัตรคนละใบให้เขา ด้านหน้าบัตรเรา ด้านหลังบัตรคนอื่น หรืออย่างน้อยปิดเลขตอนถ่าย ส่วนเว็ปหรือ App ไหนให้กรอก Laser ID ก็ต้องระมัดระวังเช่นกัน
หากเป็นสถานที่ที่เชื่อถือได้ เช่น หน่วยงานราชการ, สถาบันการเงิน, Wallet ของบริษัทใหญ่น่าเชื่อถือ ก็ใส่ได้ แต่ต้องระวังเจอเว็ปปลอม App ปลอม หรือฟิชชิ่ง ดูให้แน่ใจว่าใช่หน่วยงานนั้นจริงๆ
สมัยก่อนวันหมดอายุบัตรประชาชนจะอยู่ด้านหลังบัตร จึงต้องถ่ายทั้งหน้าและหลัง สมัยนี้จริงๆ ไม่ควรใช้สำเนาแล้ว ควรดึงข้อมูลจากชิพการ์ดหน้าบัตร แต่ยังไม่แพร่หลาย ก็ยังใช้สำเนากันอยู่ แต่ด้านหลังไม่ควรต้องถ่ายแล้ว
ด้านกระทรวงมหาดไทยเคยทำหนังสื่อส่งถึงหน่วยงานต่างๆ เมื่อวันที่ 22 มีนาคม 2556 ที่ต้องขอสำเนาบัตรประชาชนเป็นหลักฐาน เฉพาะบัตรประชาชนแบบอเนกประสงค์หรือสมาร์ทการ์ด ให้ถ่ายสำเนาบัตรด้านหน้าเพียงด้านเดียวเท่านั้น
เพราะเป็นด้านที่มีตัวเลข 13 หลักกำกับไว้ รวมถึงมีข้อมูลหลักฐานครบถ้วนอยู่แล้ว อีกทั้งปัจจุบันได้มีการนำบัตรประจำตัวประชาชนแบบอเนกประสงค์ (Smart Card) เข้ามาใช้ในระบบอย่างทั่วถึงแล้ว จึงไม่มีความจำเป็นที่จะต้องถ่ายถึงสองหน้าแบบเดิมอีก
ขอขอบคุณข่าวจาก เพจเฟซบุ๊ก “ลุงทนายใจดี ปรึกษากฎหมายฟรี”