(11 พ.ย. 62) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าของเฟชบุ๊กชื่อ WIRAT SAWANGAROM ได้โพสต์เรื่องราว “เทวดาผู้คืนชีวิตพาพ่อกลับคืนมาให้ลูกๆ” บอกเล่าถึงความเก่ง และใจดีของทีมแพทย์ของโรงพยาบาลมุกดาหาร ที่มีน้ำใจช่วยเหลือชายชาวลาว ที่ทางครอบครัวเขาเริ่มทำใจกับอาการป่วย ด้วยฐานะที่ยากจน ถึงขั้นจะนำกลับบ้านเกิด เพื่อให้หมดลมหายใจที่นั่น แต่ทว่าคุณหมอกลับไม่ยอมให้ครอบครัวของเขาทำแบบนั้น เพราะมั่นใจว่าจะรักษาคนไข้รายนี้ได้ โดยยอมรักษาให้ เพราะรู้ว่าชาวลาวคนนี้ไม่มีเงิน และเหลือเงินแค่ 200 บาทติดตัว
นายแพทย์ ราชันย์ จันทร์อ่อน แพทย์เฉพาะทางอายุรกรรม โรงพยาบาลมุกดาหาร แพทย์ผู้รักษาชายชาวลาว นายสุกกี พะสะหวัด อายุ 44 ปี บ้านหนองแสง แขวงสะหวันนะเขต เปิดเผยว่า ประมาณ 3-4 วันที่แล้ว มีคนไข้มารักษาตัวที่โรงพยาบาลมุกดาหาร มาถึงตอนเช้าไม่ได้ใส่ท่อเครื่องช่วยหายใจ อาการหนัก มีความดันต่ำมีโอกาสช็อก และมีภาวะปอดบวมอย่างรุนแรงและมีโรคประจำตัวเบาหวาน
คนไข้มาวันแรกก็รู้สึกตัวแต่พูดไม่ได้ ทางห้องแลป รายงานมาว่าติดเชื้อในกระแสเลือด และก็พยายามวินิจฉัยอย่างรวดเร็วว่าติดเชื้อเมลิออย (Melioidosis) และรีบให้การรักษา
ในวันต่อมาคนไข้ก็ยังดูดีอยู่ แต่ว่าพอมาตอนบ่าย 3 โมง คนไข้หายใจหอบเหนื่อยมาก และภรรยาของคนไข้บอกว่าจะเอาคนไข้กลับไปที่สะหวันนะเขต เอาไปตายที่บ้าน เพราะไม่มีเงินและได้จ่ายไปแล้ว 38,000 บาท เพราะคนไข้หนัก และได้เรียกรถฉุกเฉินจากสะหวันนะเขตมาแล้วและกำลังจะข้ามสะพาน แต่ประเมินคนไข้ดูแล้วน่าจะโอกาสรอดได้ ส่วนภรรยาก็ไม่ยอมจะเอากลับอย่างเดียว เพราะไม่มีเงิน หมอขอให้อยู่ต่อสักคืนหนึ่งก่อน ก็เลยให้อยู่ต่อ และได้ย้ายมาที่ห้อง ICU เพราะมีทีมพยาบาลดูแลอย่างดี
พอย้ายมาทางภรรยาก็ยังยืนยันจะเอาสามีกลับบ้านอีก เพราะไม่มีเงินแล้ว ภรรยามีเงิน 20,000 บาท ได้ยืมนายจ้างมาอีก 20,000 บาท ได้จ่ายโรงพยาบาลไปแล้ว 38,000 บาท ก็เลยเรียกภรรยามาคุย บอกไปว่าเราสามารถที่จะรักษาได้ อายุยังไม่เยอะ ภาวะแทรกซ้อนมีแค่ปอดบวมระบบหายใจล้มเหลว ความดันก็ตอบสนองดี ความรู้สึกตัวก็พูดคยรู้เรื่อง โอกาสรอดก็ประมาณ 80% ก็เลยขอยื้อคนไข้ไว้ ส่วนเรื่องค่ารักษาค่อยคุยกันวันหลัง ขอรักษาชีวิตไว้ก่อน เพราะว่าลูกยังเล็ก สงสารลูกถ้าไม่มีพ่อ
คุณหมอเผยว่า นั่งคิดอยู่ว่าจะเอาเงินที่ไหนมารักษา ก็เลยถามในกลุ่มไลน์หมอที่สนิท ก็ปรึกษากันว่า เรามีคนไข้คนลาวติดเชื้อเมลิออย ซึ่งประเมินราคาแล้วตกวันหนึ่งประมาณหมื่นกว่าบาท เพราะโรคนี้จะรักษายากนิดหนึ่ง ฉีดยาอย่างน้อย 14 วัน บางรายเป็นเดือน จนกว่าไข้จะลดลงจะตอบสนองกับยาช้ามาก และอัตราการแทรกซ้อนรุนแรงสูงมาก กลุ่มเพื่อนจึงมีการระดมทุนเล็กๆ น้อยๆ ในกลุ่มได้ประมาณ 5-6 หมื่นบาท และก็มีทางฝั่งลาวมาช่วยกันคนละเล็กคนละน้อย
นายแพทย์ราชันย์ กล่าวต่ออีกว่า ขอขอบคุณทุกๆ ท่านที่ให้กำลังใจ และได้แรงบันดาลใจจากคุณหมอ ณรงค์ศักดิ์ โรงพยาบาลกุมภวาปี และหมอน้องยศ กุมารแพทย์โรงพยาบาลลพบุรี เป็นทีมงานของเรา ซึ่งเราจะปรึกษากันทุกเรื่องเกี่ยวกับคนไข้ และระดมทุนในกลุ่มช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ช่วยเหลือกันคนละเล็กคนละน้อย และขอขอบคุณทุกท่านที่ทราบข่าวที่ให้กำลังใจ และน่าจะเพียงพอกับการรักษาคนไข้ของเราได้ และขอขอบคุณผู้อำนวยการโรงพยาบาลมุกดาหาร ที่ให้กำลังใจ ขอบคุณทีมงานทุกๆ ท่านที่ช่วยเหลือกันอย่างเต็มที่
ส่วนอาการคนไข้ล่าสุด มีอาการแทรกซ้อน ภาวะปอดมีลมคั่ง มีไข้ กระสับกระส่าย ได้ใส่สายยางระบายลมที่ปอด และได้ลดยากระตุ้นความดันปอด แต่ยังให้ยานอนหลับอยู่ แต่ยังสู้ไหวโรคนี้ต้องใช้เวลาและมีค่าใช้จ่ายสูง
ด้านนางน้อย พะสะหวัด ภรรยาผู้ป่วย กล่าวว่า ทางโรงพยาบาลมุกดาหารได้รักษาเป็นอย่างดี ตนเองไม่มีเงินรักษาสามีต่อ อยากเอาสามีกลับ เพราะว่าทางบ้านจน ไม่มีที่นา มีอาชีพหาเช้ากินค่ำ มีบุตร 3 คน และได้ยืมเงินมารักษาสามี ว่าจะเอาสามีกลับบ้าน พอดีมีหมอมาช่วยเหลือ และขอขอบคุณหมอที่เมตตาสงสารครอบครัว ขอบคุณที่ให้ความช่วยเหลือมีน้ำใจ ตนเองตื้นตันใจที่หมอได้ดูแลรักษาสามีเป็นอย่างดี มีน้ำใจในการบริจาค และขอขอบคุณผู้ใจบุญทั้งหลายที่ได้บริจาคเงิน และขอบคุณทางโรงพยาบาลมุกดาหาร หมอ และพยาบาลทุก ๆ คนที่ดูแลรักษาสามีเป็นอย่างดี