1. แอปเปิล
แอปเปิลเป็นผลไม้มีวิตามินซีและเส้นใยสูง แต่ที่เหนือไปกว่านั้นคือแอปเปิลมีเบต้าแคโรทีน หรืออนุมูลอิสระที่มีชื่อว่าเคอร์ซิทีน ซึ่งมีสรรพคุณช่วยลดความเสี่ยงโรคมะเร็งหลายชนิดได้ และหนึ่งในนั้นคือโรคมะเร็งปอด อีกทั้งวิตามินและแร่ธาตุที่มีอยู่มากในแอปเปิลยังจะช่วยดูแลสุขภาพปอดของเราได้อีกทางหนึ่งด้วย
2. แครอต
แครอตเองก็มีเบต้าแคโรทีนสูงเช่นกัน และยังมีปริมาณวิตามินเอสูงมาก ซึ่งวิตามินเอจะช่วยป้องกันอาการหอบหืดและช่วยกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันของเราให้มีความสตรองมากขึ้นได้ อีกทั้งในผักสีส้มสดใสอย่างแครอตก็ยังมีสารฟาลคารินอล ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระชนิดหนึ่งที่มีสรรพคุณในการต้านเซลล์มะเร็งได้ดี แถมยังมีฟังก์ชันพิเศษอย่างสรรพคุณช่วยขับสารพิษออกจากร่างกายได้อีกต่างหาก
3. รังนก
บันทึกในตำราแพทย์แผนจีนระบุว่า รังนกเป็นสมุนไพรจีนบำรุงปอดที่มีสรรพคุณเสริมพลัง และสามารถใช้บำรุงยินของปอดได้ดีมาก มีสรรพคุณในการช่วยละลายเสมหะ แก้ไอ ทั้งยังบำรุงและระบายความร้อนในร่างกาย จัดเป็นอาหารและยาที่ดีเยี่ยมในการบำรุงร่างกายที่ทรุดโทรม และยังระบุด้วยว่า โรคทั้งหลายที่เกิดจากพลังปอดพร่อง พลังปอดไม่ลงสู่ส่วนล่าง สามารถรักษาได้ด้วยรังนกนี่เองค่ะ
4. ขิง
ขิงเป็นสมุนไพรอีกตัวที่ดีต่อระบบทางเดินหายใจ โดยเฉพาะกับคนที่มักจะมีปัญหาเสมหะบ่อย ๆ การดื่มน้ำขิงจะช่วยขับเสมหะได้ อีกทั้งขิงยังมีสารจิงเกอร์รอล ซึ่งเป็นสารที่มีฤทธิ์รุนแรงกว่าแอสไพริน แถมยังมีสรรพคุณช่วยต้านอาการอักเสบภายในร่างกาย นอกจากนี้ในขิงยังมีสารต้านอนุมูลอิสระสูง จึงช่วยลดความเสี่ยงโรคมะเร็งให้เราได้ด้วย
5. แคนตาลูป
วิตามินซีจากแคนตาลูปเป็นสิ่งที่ดีต่อปอดเรามาก ๆ โดยผลการศึกษาจากประเทศญี่ปุ่น ซึ่งได้ทำการทดลองในเด็กวัยก่อนเข้าโรงเรียนพบว่า เด็กที่ได้รับวิตามินซีเข้าร่างกายอย่างเพียงพอกับความต้องการ มีอัตราการเสี่ยงต่อโรคหอบหืดต่ำกว่าเด็กที่ไม่ค่อยได้รับวิตามินซีเท่าที่ควร ซึ่งนอกจากแคนตาลูปจะมีวิตามินซีสูงแล้ว ผลไม้ในกลุ่มซิตรัสอย่างส้ม ส้มโอ เกรปฟรุต และกีวีก็มีวิตามินซีสูงเช่นกัน
6. บรอกโคลี
ถ้าพูดถึงผักที่มีวิตามินซีสูงไม่แพ้ผลไม้กลุ่มซิตรัส ก็ต้องยกเอาบรอกโคลีมาแนะนำกันเลยค่ะ และนอกจากวิตามินซีแล้ว ในบรอกโคลียังอุดมไปด้วยวิตามินบี 5 ที่มีคุณสมบัติทดแทนการสูญเสียวิตามินซีจากการสูบบุหรี่ และมีหน้าที่ปกป้องดูแลปอดไม่ให้เกิดความเสียหายจากสารพิษในบุหรี่ได้อีกต่างหาก เด็ดไม่เบาเลยนะเจ้าบรอกโคลี
7. กาแฟ
ในขณะที่ยังคงมีข้อถกเถียงกันอยู่เนือง ๆ ว่ากาแฟให้คุณหรือโทษต่อร่างกายกันแน่ แต่ผลการศึกษาจากสถาบัน Cochrane กลับพบว่า คาเฟอีนในกาแฟมีส่วนช่วยเปิดทางเดินหายใจ ภายหลังจากที่เราดื่มกาแฟไปแล้ว 4 ชั่วโมง และ Dr.Graham ผู้เชี่ยวชาญด้านระบบทางเดินหายใจ ยังบอกด้วยว่า คาเฟอีนเปรียบเสมือนยาขยายหลอดลม ที่ช่วยให้การหายใจของเราเป็นไปอย่างสะดวกขึ้น โดยเฉพาะกับผู้ป่วยโรคหอบหืด ทว่าการดื่มกาแฟดำเพื่อสุขภาพที่ดีก็ไม่ควรดื่มเกินวันละ 4 แก้ว (ขนาดปกติ) นะคะ
8. ชาดำ
ใครไม่ถนัดดื่มกาแฟสามารถเปลี่ยนมารับคาเฟอีนจากชาดำได้เหมือนกันค่ะ เพราะชาดำเองก็มีคาเฟอีนอยู่จำนวนไม่น้อย หรือหากใครหาชาใบสนมาดื่มได้ก็จะยิ่งดี เพราะชาใบสนมีสรรพคุณในการช่วยฆ่าเชื้อแบคทีเรียในช่องปากและลำคอ เคลียร์ลมหายใจของเราให้สะอาด ส่งผลให้การทำงานของปอดดีตามไปด้วย
9. เมล็ดแฟลกซ์
เมล็ดแฟลกซ์เป็นซูเปอร์ฟู้ดที่มีกรดไขมันโอเมก้า 3 สูงมาก และยังเปี่ยมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ ที่ช่วยป้องกันการเกิดความผิดปกติของร่างกาย เช่น ความเสี่ยงโรคหอบหืด อีกทั้งสารต้านอนุมูลอิสระที่มีในธัญพืชชนิดนี้ยังสามารถป้องกันการเกิดมะเร็งในร่างกายเราได้ นอกจากนี้แมกนีเซียมในแฟลกซ์ซีดยังจะช่วยผ่อนคลายกล้ามเนื้อบริเวณหลอดลม ทำให้เราหายใจสะดวกขึ้น ป้องกันการเกิดโรคหอบหืดได้ด้วยนะ
10. กระเทียม
จุดเด่นของกระเทียมคือมีสรรพคุณต้านการอักเสบ และยังมีสารต้านอนุมูลอิสระที่ชื่ออัลลิซิน (Allicin) ที่ผลการวิจัยในปี 2009 ได้ยกย่องว่า สารต้านอนุมูลอิสระในกระเทียมมีคุณสมบัติปล่อยกรดชนิดหนึ่งซึ่งสามารถฆ่าอนุมูลอิสระในร่างกายได้ จึงลดความเสี่ยงโรคมะเร็งเกือบทุกชนิดในร่างกายได้เป็นอย่างดี
และนอกจากอาหารบำรุงปอด 10 อย่างดังกล่าวแล้ว เรายังมีสูตรน้ำปั่นบำรุงปอดมาแนะนำกันด้วย ตามนี้เลยจ้า
น้ำปั่นบำรุงปอด
ส่วนผสม
- แครอต 1 ถ้วยตวง
- หัวไชเท้า 1/4 ถ้วยตวง
- แอปเปิล 1 ถ้วยตวง
- น้ำแข็ง 4 ถ้วยตวง
- น้ำเชื่อม (ตามชอบ)
- เกลือ (ตามชอบ)
วิธีทำ
1. ปอกเปลือกแครอตและหัวไชเท้า ส่วนแอปเปิลไม่ต้องปอกเปลือก
2. ล้างผักทุกชนิดให้สะอาด
3. หั่นผักทุกอย่างเป็นสี่เหลี่ยมลูกเต๋า หรือหั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ หรือสะดวกจะขูดเป็นเส้นฝอย ๆ ก็ได้เช่นกัน
4. ใส่ผักที่หั่นแล้วลงในเครื่องปั่น ตามด้วยน้ำแข็งที่เตรียมไว้
5. ปรุงรสได้ตามชอบ แต่ถ้าอยากดื่มแบบคลีน ๆ จะไม่ใส่น้ำเชื่อมกับเกลือก็ได้
จะว่าไปแล้วอาหารบำรุงปอดก็เป็นอาหารเพื่อสุขภาพที่ใครก็กินแล้วดีด้วยกันทั้งนั้นนะคะ งั้นเอาเป็นว่าพยายามกินอาหารเหล่านี้ให้ได้ตามปริมาณที่เหมาะสมและมีความหลากหลาย เพื่อให้ร่างกายได้รับสารอาหารครบทั้ง 5 หมู่ และเพื่อสุขภาพปอดที่ดี ก็ควรหมั่นออกกำลังกายและหลีกเลี่ยงการสูบหรือดมกลิ่นบุหรี่ให้ได้มากที่สุดด้วยล่ะ
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
ชมรมฟื้นฟูสุขภาพผู้ป่วยโรคมะเร็ง
คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์
health
curejoy