เปิดประตูสู่‘ญาจาง’ เมืองตากอากาศสุดหรู
เปิดประตูสู่‘ญาจาง’ เมืองตากอากาศสุดหรู
เปิดประตูสู่‘ญาจาง’ เมืองตากอากาศสุดหรู – เวียดนาม หลายคนคงเคยไปเที่ยวกันแล้ว แต่ถ้าจะชวนไปเที่ยวญาจาง คงมีคำถามว่าอยู่ส่วนไหนของเวียดนาม
กระเช้า 65 ตัวสลับวิ่งไปสวนสนุกวินเพิร์ล พาร์ก
วันนี้สายการบินบางกอกแอร์เวย์สได้เปิดเส้นทางบินกรุงเทพฯ-คัมรัญ ประตูสู่ญาจาง สัปดาห์ละ 4 เที่ยว จันทร์-พุธ-ศุกร์ และอาทิตย์ ใช้เวลาบินจากสนามบินสุวรรณภูมิ ถึงสนามบินนานาชาติคัมรัญ 1 ชั่วโมง 30 นาที และเดินทางต่อด้วยรถยนต์จากสนามบินคัมรัญ เพื่อเข้าสู่ ญาจาง ประมาณ 40 นาที
ญาจาง (Nha Trang : คนเวียดนามจะออกเสียงว่า ‘หน่าตรัง’) เป็นเมืองชายทะเลเล็กๆ แต่มีความทันสมัยอย่างไม่น่าเชื่อ โรงแรมระดับลักชัวรี่ 6 ดาว อย่าง Evason Ana Mandara ถือเป็นแบรนด์แรกๆ ของต่างชาติเข้าไปลงทุนในเมืองนี้ และทำให้ญาจาง กลายเป็น 1 ใน 12 สถานที่พักตากอากาศริมหาดที่หรูที่สุดในโลก
โรงแรมใหญ่ๆ มากมาย
ในวันที่เราไปถึงแทบไม่เชื่อสายตา ไม่เพียงแค่มีโรงแรม ขนาดใหญ่ที่ผุดขึ้นเป็นดอกเห็ด แต่ยังเป็นแบรนด์โรงแรมหรูๆ ที่นักท่องเที่ยวทั่วโลกคุ้นเคยอีกหลายแห่ง ทำให้วันนี้มีปริมาณ ห้องพักรวมแล้วกว่า 30,000 ห้อง
จุดเช็กอินถ่ายรูปริมหาด
และยังมีที่กำลังจะก่อสร้างกันฝุ่นตลบอีก ซึ่งคาดว่าปีถัดไปจะมีโรงแรมใหม่เติมเข้ามาเป็น 50,000 ห้อง ยังไม่พูดถึงบีชคลับหรูๆ ที่ไปเปิดเรียงรายกันริมหาดอีกมาก และร้านอาหารตกแต่งดีๆ ร้านกาแฟเท่ๆ ก็มีมาก แถมยังมีห้างอิออนไปเปิดที่นี่ด้วย
คาเฟ่ชิกๆ
มุมพักผ่อนบนหาดญาจาง
ไกด์ปลาทูเล่าว่า เมืองญาจางเคยมีสนามบินเป็นของตัวเอง แต่เนื่องด้วยเป็นเมืองเล็ก รัฐบาลเวียดนามต้องการกระจายรายได้และกระจายความเจริญไปสู่เมืองใกล้เคียง จึงได้ลงทุนสร้างสนามบินแห่งใหม่ที่เมืองคัมรัญ ทำให้คัมรัญวันนี้กลายเป็นเมืองท่องเที่ยวรอง และรัฐบาลก็ประสบความสำเร็จ เพราะตลอดสองข้างทางจากคัมรัญเข้าสู่ญาจางจะเห็นการก่อสร้างขนาดใหญ่ที่แสดงถึงการเติบโตของเมืองอย่างดี
ไกด์ปลาทูยังเล่าประวัติศาสตร์คร่าวๆ ว่า เดิมญาจางเป็นที่อยู่อาศัยของชาวจาม ดูได้จากที่นี่จะมีศาสนสถานปราสาทโปนาคา ปราสาทสำคัญของคนจาม เมื่อสงครามเวียดนามสู้รบกับอเมริกาสิ้นสุดลง รัฐบาลต้องการสนับสนุนให้คนเวียดนามขยายตัวจากภาคเหนือ และภาคกลางตอนบน ที่อยู่ในภาวะยากจนให้ลงมาภาคใต้ เพราะมีธรรมชาติที่สมบูรณ์กว่า
โบสถ์ญาจางอายุเกือบ 100 ปี / ด้านในโบสถ์ญาจางอันงดงาม
ขณะที่คัมรัญในอดีตได้ทำหน้าที่เป็นท่าเรือน้ำลึก โดยครั้งหนึ่งเคยให้สหภาพโซเวียตเช่าเพื่อเทียบท่า และต่อมากองทัพเรือรัสเซียใช้เป็นฐานทัพเรือ ส่วนญาจางซึ่งตั้งอยู่ไม่ห่างนัก และมีชื่อเสียงในเรื่องชายหาดที่ทอดยาว 6 กิโลเมตร มีทิวเขาและหมู่เกาะน้อยใหญ่กระจายตัวอยู่เป็นฉากหลังสวยงาม นับตั้งแต่นั้นมาญาจางก็ได้รับความนิยมในหมู่ทหารรัสเซีย และมีการย้ายครอบครัวมาอยู่และเติบโตขึ้นอย่างมาก
ส่วนนักท่องเที่ยวจีนก็ไม่เป็นสองรองใคร รวมทั้งนักกอล์ฟจากออสเตรเลีย ก็นิยมมาเล่นกอล์ฟที่ญาจางด้วยเช่นกัน เพราะมีสนามกอล์ฟระดับเกร็ก นอร์แมน อดีตนักกอล์ฟมือ 1 ของโลก ชาวออสซี่ เป็นผู้ออกแบบ
พระพุทธรูปองค์ใหญ่มุมไหนก็งดงาม
วันแรกของการเยือนก็ต้องประทับใจกับขนมต้อนรับ ที่จัดวางในห้องพักจนแทบไม่กล้ากิน เพราะสวยมาก ขณะที่ทิวทัศน์ชายทะเลที่มองเห็นจากระเบียงห้องก็ชวนให้ออกไปนั่งรับลมเย็นๆ
อีกหนึ่งสิ่งที่สร้างความประหลาดใจไม่น้อย คือ ชายหาดที่นี่มีคนมาว่ายน้ำกันแบบจริงจังมาก ตั้งแต่ยังไม่สว่าง เดาว่าคงเป็นการออกกำลังกายเหมือนกับที่เราไปออกกำลังกายที่สวนสาธารณะอย่างไรอย่างนั้นก็ได้
เกริ่นสัพเพเหระไปซะเยอะ ไปเที่ยวกันเถอะ ทริปนี้เรามีเวลาเที่ยววันเดียวแบบ เต็มวันคือวันที่ 2 เตรียมอุปกรณ์กันแดดให้พร้อมแล้วมาเริ่มกันเลย แห่งแรกคือ วัด ลองเซิน วัดเก่าแก่ที่มีอายุร่วม 130 ปี ตั้งอยู่บริเวณเชิงเขาจายกวี ซึ่งเป็นวัดพุทธมหายานเพียงแห่งเดียวที่เป็นที่เคารพศรัทธาของชาวเมืองหน่าตรังมากที่สุด เดิมทีวัดนี้ตั้งอยู่บนยอดเขา แต่ภายหลังถูกพายุพัดทำลายจึงย้ายวัดมาอยู่ที่เชิงเขาแทน
พระพุทธรูปองค์ใหญ่ที่วัดลองเซิน / พระพุทธไสยาสน์สังเกตที่ฐานมีภาษาไทย
ส่วนพื้นที่วัดเดิมบนภูเขาปัจจุบันเป็นที่ประดิษฐานของพระพุทธรูปหินอ่อนองค์ใหญ่ ชื่อ Kim Than Phat To ประทับบนฐานดอกบัว สามารถมองเห็นแต่ไกล โดยผู้ที่จะนมัสการต้องเดินขึ้นบันได 152 ขั้น และจากจุดนั้นสามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์ของเมืองญาจางแบบพาโนรามาด้วย
ที่น่าภูมิใจคือ วัดแห่งนี้ชาวไทยได้มีส่วนร่วมในการบูรณะด้วย จะเห็นได้จากพระพุทธไสยาสน์หินอ่อนขนาดใหญ่ที่ประดิษฐานก่อนถึงองค์พระใหญ่ จะมีแกะสลักภาษาไทยอยู่ใต้ฐาน
ไม่ไกลกันมากเราก็มาถึงโบสถ์ญาจาง (Nha Trang Cathedral) เมื่อจ่ายค่าตั๋วเข้าชมแล้วก็เดินฝ่าแดดเช้าเพื่อขึ้นไปชมโบสถ์ อาสนวิหารคาทอลิก สร้างในแบบโกธิก เมื่อปีค.ศ.1928 โดยนักบวชชาวฝรั่งเศส โบสถ์เก่าอายุเกือบ 100 ปีเป็นศูนย์กลางศาสนาคริสต์ นิกายโรมันคาทอลิกแห่งเมืองญาจาง มองจากภายนอกก็สวย ด้านในโบสถ์ยิ่งงดงามด้วยกระจกสีสเตนกลาสที่ประดับโดยรอบ
ส่วนรอบลานเป็นรูปปั้นนักบุญที่มีความสำคัญในศาสนา ตั้งเรียงราย ดึงดูดให้นักท่องเที่ยวมาเก็บภาพตามมุมต่างๆ ของโบสถ์แบบไม่เกรงกลัวแดดกันเลย
มองจากวินเพิร์ล พาร์ก จะเห็นฝั่งที่เราข้ามมา
ช่วงบ่ายของวันเดียวกันป็นไฮไลต์ของทริปนี้ คือ วินเพิร์ล พาร์ก (Vinpearl Park) สวนสนุกขนาดใหญ่กลางทะเล ซึ่งเป็นการลงทุนโดยวินกรุ๊ป (Vingroup) ที่ก่อตั้งโดย Pham Nhat Vuong มหาเศรษฐีอันดับหนึ่งของเวียดนาม วัย 51 ปี ฉายาโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งเวียดนาม ที่มีอาณาจักรธุรกิจครอบจักรวาลในเวียดนาม
การเดินทางไปเกาะสวนสนุกวินเพิร์ล พาร์ก ต้องนั่งกระเช้าข้ามไปยังเกาะ Hon Tre ด้วยความยาว 3,300 เมตร ใช้ระยะเวลาอยู่ในกระเช้าประมาณ 10 นาที เดิมที่นี่เป็นกระเช้าข้ามเกาะที่ยาวที่สุดของเวียดนาม แต่ปัจจุบันถูกกระเช้าข้ามเกาะที่ฟู้โกว๊ก เมืองท่องเที่ยวชายทะเลที่กำลังมาแรงอีกหนึ่งแห่งของเวียดนามลบสถิติ ด้วยความยาว 9 กิโลเมตร
พาเหรดมาสคอต
สวนสนุกแห่งนี้สร้างขึ้นเมื่อปีค.ศ.2001 ขณะที่กระเช้าข้ามเกาะสร้างเสร็จในปี 2007 ก่อนหน้านี้จะใช้เรือในการสัญจรมายังเกาะ สวนสนุกแห่งนี้มีกิจกรรมหลากหลายเหมาะกับทุกวัย ทั้งเครื่องเล่นผาดโผน ผจญภัย เช่น Evolution Ride ที่มีการหมุนแบบ 360 องศาอย่างต่อเนื่อง เครื่องเล่น Sky Wheel ขนาดยักษ์ แต่ที่ไม่น่าพลาดอย่างยิ่งแต่เราก็พลาดไปแล้ว คือ รถราง Roller Coaster ผ่านผืนป่าจากยอดเขาลงสู่หุบเขา เพิ่มประสบการณ์ความสนุก
สนุกกันสุดเหวี่ยง
ใครไม่ชอบโลดโผนก็เตรียมชุดว่ายน้ำมาเล่นน้ำบริเวณชายหาดของสวนน้ำ หรือจะเดินดูโลกใต้ทะเลบริเวณโซน อควาเรียม และยังมีโซนวินเพิร์ล แลนด์ ซาฟารี ไปดูนกฟลามิงโก้ เต้นระบำ เลือกได้ตามจริตความชอบ จ่ายค่าตั๋วประมาณ 1,000 บาท สามารถเล่นเครื่องเล่นได้ทุกชนิด
ญาจางจึงเป็นเมืองที่แนะนำให้ไปเยือนสักครั้ง