แน่นอนว่ารถยนต์โดยทั่วไปไม่ได้ออกแบบมาให้แล่นในน้ำ เพราะฉะนั้นสิ่งแรกที่อยากจะแนะนำก็คือหลีกเลี่ยงการที่จะต้องขับรถลุยน้ำท่วมสูงด้วยการศึกษาเส้นทางและติดตามข่าวสารก่อนเดินทางนั่นคือวิธีที่ดีที่สุด
แต่หากหลีกเลี่ยงไม่ได้หรือเป็นเหตุสุดวิสัย รถยนต์ที่เราใช้กันอยู่ก็ใช่ว่าจะไม่สามารถขับลุยน้ำได้เลย แต่การจะขับรถผ่านมวลน้ำนั้นอย่างแรกเลยต้องประเมินลักษณะของรถกับความสูงของน้ำที่ท่วมอยู่ซะก่อนว่าถือเป็นความเสี่ยงเกินไปหรือไม่ ยกตัวอย่างเช่นหากเป็นน้ำที่ท่วมขังแค่สัก 10 เซนติเมตร หรือระดับไม่เกินข้อเท้า รถส่วนใหญ่ตั้งแต่รถเก๋งขนาดเล็กก็สามารถค่อย ๆ ขับผ่านไปได้เลย เพราะอยู่ในระดับที่ยังท่วมไม่ถึงท้องรถและท่อไอเสียนั่นเอง
ประเมินสถานการณ์ก่อนลุยน้ำ
สำหรับรถยนต์แบบต่าง ๆ จะมีความสูงจากพื้นถึงใต้ท้องรถ (ground clearance) โดยประมาณดังนี้
- รถเก๋งเล็ก (รถเก๋งทั่วไป, รถอีโคคาร์, รถ MPV) ระดับต่ำสุดจากพื้นเฉลี่ย 14.5 เซนติเมตร
- รถกระบะเตี้ย, กระบะขนของ ระดับต่ำสุดจากพื้นเฉลี่ย 18 เซนติเมตร
- รถกระบะยกสูง ระดับต่ำสุดจากพื้นเฉลี่ย 22 เซนติเมตร
- รถอเนกประสงค์ (Mini SUV, SUV, PPV) ระดับต่ำสุดจากพื้นเฉลี่ย 22 เซนติเมตร
ลุยน้ำท่วมอย่างไรให้ปลอดภัย
ตามที่กล่าวไปแล้วก็คือ หากเจอกับน้ำท่วมไม่สูงนัก ผู้ขับย่อมจะสามารถค่อย ๆ ขับรถผ่านจุดที่น้ำท่วมขังได้เลยโดยไม่มีปัญหา แต่หากระดับน้ำสูงกว่านั้น คือสูงถึงใต้ท้องรถ หรือท่วมถึงขอบประตูรถ หรือท่วมถึงปลายท่อไอเสีย นั่นหมายความว่าการขับรถต้องใช้ความระมัดระวังและวิธีการที่ถูกต้อง ซึ่งการขับรถลุยน้ำท่วมสูงมีวิธีปฏิบัติดังนี้
- ปิดแอร์ทันที เพราะหากเปิดแอร์ไว้พัดลมระบายความร้อนหม้อน้ำจะทำงาน ซึ่งเมื่อน้ำท่วมถึง พัดลมจะตีน้ำกระจายไปทั่วห้องเครื่อง อาจเกิดไฟช็อตและทำให้เครื่องยนต์ดับดับ แถมยังมีความเสี่ยงที่ใบพัดลมจะหักอีกด้วย
- ใช้เกียร์ต่ำ หากเป็นเกียร์ธรรมดาให้ใช้เกียร์ 1-2 เพราะรถต้องใช้แรงในการฝ่าน้ำ ควบคุมความเร็วรถให้ต่ำ รถเบาดับยากที่สุด ส่วนกรณีที่เป็นเกียร์อัตโนมัติก็ปรับตำแหน่งคันเกียร์มาที่ L (Low) เสมอ
- รักษาความเร็วต่ำให้สม่ำเสมอ หรือรักษารอบเครื่องยนต์ไว้ที่ 1,500-2,000 รอบต่อนาที ไม่ขับเร็วเพราะอาจทำให้เกิดคลื่นน้ำที่จะกระทบกับขอบฟุตบาทหรือสิ่งกีดขวางอื่นแล้วย้อนกลับเข้ามาที่ตัวรถได้ นอกจากนี้การขับตามคันหน้าในระยะที่ปลอดภัยนับเป็นเรื่องดี เพราะจะทำให้สามารถคาดการณ์ลักษณะของพื้นผิวถนนที่จบอยู่ใต้น้ำได้ เรียกง่าย ๆ ว่าให้คันหน้าช่วยนำทางนั่นเอง
- อย่างไรก็ตาม กรณีที่ไม่แนะนำอย่างยิ่งสำหรับการขับรถลุยน้ำท่วมสูงก็คือ หากประเมินสถานการณ์แล้วพบว่ามีโอกาสที่จะต้องหยุดหรือจอดรถแช่น้ำ หรือเส้นทางที่จะผ่านมีน้ำท่วมสูงเป็นระยะทางไกลเกินไป ซึ่งแบบนี้ก็เท่ากับเพิ่มความเสี่ยงที่รถจะดับหรือเกิดความเสียหายได้มากขึ้น
- และหากเกิดกรณีที่เลวร้ายที่สุดคือเครื่องยนต์ดับในขณะที่แช่น้ำท่วมสูง ห้ามสตาร์ทเครื่องยนต์โดยเด็ดขาด เพราะน้ำอาจจะเข้าสู่ระบบเครื่องยนต์ซึ่งจะทำให้เกิดความเสียหาย ถึงตอนนี้มีทางเลือกอย่างเดียวคือหาวิธีเข็นหรือลากรถไปอยู่ในบริเวณที่พ้นน้ำแล้วหาวิธีแก้ไขต่อไป