เชื่อว่าใครก็อยากเป็นคนรวยด้วยกันทั้งนั้น หรืออย่างน้อย ๆ ก็คงอยากมีเงินเก็บไว้ให้อุ่นใจบ้าง เพียงแต่ว่าเหตุผลในการใช้จ่ายของแต่ละคนก็ไม่เหมือนกัน ครั้นจะออมเงินให้มากหน่อยก็อาจจะมีเหตุให้ต้องจ่ายเงินออกไปซะนี่ เอาล่ะ ! แต่นับจากวันนี้เราจะมาออมเงินให้สำเร็จอย่างจริงจังกันค่ะ เริ่มด้วย 25 วิธีใช้จ่ายอย่างประหยัดต่อไปนี้ก่อนเลย
1. วางแผนการใช้จ่าย
วางแผนเอาไว้เลยว่าในแต่ละเดือนเราต้องจ่ายเงินให้กับอะไรบ้าง โดยหักค่าใช้จ่ายเจ้าประจำอย่างค่าเช่าบ้าน ค่าผ่อนรถ ค่าโทรศัพท์ ค่าอินเทอร์เน็ต ค่าน้ำ ค่าไฟ และค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ที่ค่อนข้างตายตัว จนสุดท้ายก็นำเงินส่วนที่เหลือมาแบ่งออมและใช้จ่ายรายวัน แต่ที่สำคัญก็ต้องใช้จ่ายให้ไม่เกินงบที่แบ่งไว้ด้วย
2. เที่ยวสวนกระแส
ถ้าอยากเที่ยวก็เที่ยวได้ แต่แนะนำให้เที่ยวสวนกระแสดีกว่า เพราะอย่างที่เรารู้กันดีอยู่แล้วว่าช่วงไฮซีซั่นจะเป็นช่วงฉวยโอกาสขึ้นราคาของแหล่งท่องเที่ยวทุกหนแห่ง ดังนั้นอยากเที่ยวแบบประหยัดก็ต้องไปในช่วงโลว์ซีซั่น ซึ่งนอกจากค่าใช้จ่ายจะถูกลงแล้ว คนยังบางตา เที่ยวสะดวกกว่าด้วยนะ
3. กินข้าวที่บ้านให้บ่อยขึ้น
4. ใช้บริการรถสาธารณะ
ในกรณีที่คุณอยู่ในเมืองที่มีการคมนาคมค่อนข้างสะดวก อาจลองหันมาใช้บริการรถสาธารณะดูบ้าง แต่หากอยู่นอกเมืองที่การเดินทางค่อนข้างต้องพึ่งตัวเองเป็นส่วนใหญ่ ลองเลือกใช้รถยนต์ขนาดเล็กแบบอีโคคาร์ หรือรถจักรยาน และจักรยานยนต์ที่เซฟค่าน้ำมันไปได้อีกนิดก็ดี
5. ประหยัดพลังงาน
ทั้งน้ำและไฟในบ้าน หากใช้ให้น้อยลง หรือใช้ให้คุ้มค่ามากขึ้น รายจ่ายในส่วนนี้ก็คงลดลงไปได้อีกพอสมควร เป็นต้นว่า นำน้ำสุดท้ายของการซักผ้าไปรดน้ำต้นไม้หรือล้างรถด้วย และปิดไฟทุกครั้งที่ไม่ได้ใช้งานในส่วนนั้นแล้ว แอร์ก็เปิดตอนที่อากาศร้อนจริง ๆ และอย่าลืมควบคุมอุณภูมิไม่ให้ต่ำกว่า 25 องศาเซลเซียสด้วยนะจ๊ะ
6. ทำประกันชีวิตแต่พอดี
ประกันชีวิตเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่ช่วยเราออมเงินได้ในระยะยาว เพียงแต่เราควรต้องเช็กให้ดีด้วยว่า เงื่อนไขในแต่ละกรมธรรม์มีความแตกต่าง หรือให้ผลประโยชน์ที่ครอบคลุมกับเรามากแค่ไหน เพราะหากเราทำประกันชีวิตที่เงื่อนไขและผลประโยชน์ไม่แตกต่างกันเท่าไร ก็เท่ากับว่าเสียเงินซ้ำซ้อนหลายทางไปเปล่า ๆ
7. กาแฟอร่อยแต่ไม่แพงก็มี
ใครที่ติดกาแฟแบรนด์ดังแก้วละร้อยกว่า ลองหากาแฟบ้าน ๆ ราคาถูกแต่รสชาติดีมาดื่มดูสิคะ แล้วคุณจะค้นพบร้านกาแฟเจ้าประจำร้านใหม่ ที่ช่วยเซฟเงินเราไปได้อีกมาก
8. แพ็กเกจโทรศัพท์คุ้มแค่ไหน
สำหรับคนที่ใช้สมาร์ตโฟนหรือคนที่ใช้โทรศัพท์แบบรายเดือน ลองคิดดูดีกว่าว่าการใช้โทรศัพท์ของเรากับเงินที่ต้องจ่ายนั้นสมเหตุสมผลหรือไม่ และหากเปลี่ยนแพ็กเกจเป็นแบบที่ถูกลงได้ก็จะดีมากเลยทีเดียว
9. ลดแพ็กเกจเคเบิล
นอกจากแพ็กเกจโทรศัพท์ที่ต้องตรวจสอบให้ดีแล้ว อย่าลืมดูแพ็กเกจเคเบิลทีวีที่บ้านด้วย หากคุณไม่ค่อยได้ใช้ประโยชน์จากเคเบิลทีวีเท่าไรนัก ดูก็แต่ช่องพื้น ๆ ทั่วไป แบบนี้ลดแพ็กเกจมาเป็นแบบธรรมดาดีกว่า
10. ขับรถให้ช้าลง
อาจจะเป็นวิธีที่ช่วยลดค่าใช้จ่ายแค่บางส่วน แต่หากคุณปรับนิสัยขับรถให้ช้าลงได้ ทั้งตัวคุณเองก็จะเสี่ยงภัยบนท้องถนนน้อยลง และประหยัดน้ำมันเพิ่มขึ้นได้อีกด้วย
11. ซื้อของแพ็กใหญ่เท่าที่ใช้จริง ๆ
สินค้าบางรายการกักตุนไปก็เหมือนเอาเงินไปจม ดังนั้นหากจะซื้อของยกแพ็คก็ซื้อแค่สินค้าที่เราใช้เป็นประจำ และเก็บไว้ใช้ได้นาน อย่างเช่น ทิชชู แป้งทาตัว หรือถุงขยะ เป็นต้น
12. อย่าตามกระแสคนรอบข้าง
อาจมีบ้างที่เราต้องเข้าสังคมที่่เกินตัว ต้องใช้จ่ายเงินไปกับความฟุ่มเฟือยอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่หากในกรณีที่สามารถบอกปัด หรือนำเสนอทางเลือกที่ใช้เงินน้อยกว่าก็อย่าอายที่จะเสนอไอเดียไป เผื่อบางทีกิจกรรมสังสรรค์ที่คุณเสนออาจเป็นความแปลกใหม่ที่เพื่อน ๆ ชอบใจก็ได้นะ
13. เที่ยวฟรีดีกว่า
งานบันเทิงหรือกิจกรรมดี ๆ ที่จัดฟรีก็อย่าได้พลาดนะจ๊ะ ยิ่งในช่วงที่คุณมีอาการเบื่อ ๆ งานเที่ยวฟรี อิ่มดี แต่ตังค์ยังอยู่ครบนี่ต้องไปให้ได้เลย
14. ออกกำลังกายแบบไม่ต้องพึ่งฟิตเนส
สุขภาพจะดีได้ก็ต้องออกกำลังกาย และบางคนที่อยากฟิตหุ่นด้วยอาจจะเลือกใช้บริการฟิตเนส จ้างเทรนเนอร์มาคอยสอนอีกหลายตังค์ ซึ่งอันที่จริงแล้วแค่เราออกกำลังกายด้วยตัวเองที่บ้าน หรือใช้บริการเครื่องเล่นที่สวนสาธารณะก็ได้ผลลัพธ์ที่ไม่ต่างกันเท่าไร เรื่องแบบนี้มันอยู่ที่ความตั้งใจของเราเองนะจ๊ะ
15. กินอาหารคลีน
ดูเป็นเรื่องที่อิงสุขภาพไม่เบา แต่ผลพลอยได้จากการกินอาหารคลีนยังช่วยให้เราประหยัดค่าอาหารได้อีกเยอะเลยล่ะ เพราะวัตถุดิบของอาหารคลีนก็เน้นผัก เน้นเนื้อสัตว์ ตัดพวกขนมไร้ประโยชน์และอาหารราคาแพงที่ไม่ได้ให้คุณค่าทางสารอาหารเท่าไรออกไปโดยปริยาย
16. ทำความสะอาดบ้านเอง
หากคุณจ้างแม่บ้านหรือบริษัททำความสะอาดบ้านและจัดสวนมาดูแลความเรียบร้อยในบ้านให้ แนะนำให้ยกเลิกบริการเหล่านี้แล้วลงมือทำความสะอาดบ้านด้วยตัวเองดีกว่า ตัดรายจ่ายได้อีกหลายบาทเชียว
17. รูดบัตรเครดิตเท่าที่จ่ายไหว
รู้กันดีอยู่แล้วว่าดอกเบี้ยบัตรเครดิตไม่ใช่ถูก ๆ ดังนั้นก่อนตัดสินใจรูดบัตรชำระสินค้าอะไรอยากให้ลองคำนวณเงินในบัญชีของตัวเองกันสักนิด โดยเฉพาะถ้าของที่รูดซื้ออยู่ไม่ได้มีความจำเป็นต่อชีวิตเท่าไรยิ่งต้องเก็บบัตรเครดิตลงกระเป๋าด่วนเลย
18. DIY ของขวัญให้เพื่อน
ภาษีสังคมอย่างค่าของขวัญแบบนี้เป็นภาระค่าใช้จ่ายที่เราตัดออกได้ง่าย ๆ เพียงแค่คุณ DIY ของขวัญให้เพื่อนด้วยตัวเอง ใส่ไอเดียและความตั้งใจลงไปบนของชิ้นนั้น รับรองเลยว่าผู้รับจะต้องประทับใจมากกว่าได้ของขวัญราคาแพงซะอีก
19. ออมอย่างชาญฉลาด
หากคุณต้องการออมเงินแต่มักจะล้มเหลวไม่เป็นท่าทุกที ลองเปลี่ยนวิธีออมเงินแบบที่ตัวเองเบี้ยวไม่ได้ เช่น เปิดบัญชีเงินฝากประจำ หรือออมเงินให้สนุกกว่าเดิม ด้วยการตั้งกติกาการออมเงินอย่างเก็บเฉพาะแบงก์ 50 เหรียญ 10 หรือหักเอาค่ากาแฟมาเก็บออม ถือเป็นภารกิจไดเอตไปด้วยในตัว
20. จ่ายบิลตรงเวลา
บิลค่าใช้จ่ายต้องเคลียร์ให้ทันกำหนดชำระ เพื่อหลีกเลี่ยงค่าธรรมเนียมที่ต้องเสีย โดยเฉพะบิลค่าบัตรเครดิตที่นอกจากจะเสียค่าธรรมเนียมในการจ่ายแล้ว ยังมีอัตราดอกเบี้ยที่ต้องเสียเพิ่มขึ้นหากชำระล่าช้าอีกด้วยนะ
21. ช้อปสินค้าให้ถูกแหล่ง
สินค้าราคาถูกมักจะมีแหล่งซื้อ-ขายของมันเอง ซึ่งเราก็ควรไปหาซื้อของจากแหล่งนั้น ๆ หรือในกรณีที่ของถูกอยู่ไกล ก็ลองคำนวณความคุ้มค่าในการเดินทางด้วยก็ได้ หากยอมจ่ายแพงหน่อยแต่ประหยัดค่าเดินทางและเวลาก็ถือว่าคุ้มพอตัว
22. เลือกซื้อสินค้าที่ใช้ได้นาน
สินค้าบางอย่างก็ต้องเน้นคุณภาพมากกว่าราคา อย่างเหล่าเฟอร์นิเจอร์และเครื่องใช้ไฟฟ้า หากยอมลงทุนซื้อของดีที่มีราคามาหน่อย แต่ใช้ได้นานและคุ้มก็น่าจะเวิร์กกว่าของราคาถูกแต่ใช้ไปได้ไม่เท่าไรก็พังซะแล้ว
23. แลกเสื้อผ้ากับเพื่อน
เสื้อผ้าที่เราเบื่อแล้ว หรือใส่ไม่ได้เพราะรูปร่างที่เปลี่ยนไป ลองเอาไปแลกกับเพื่อนใส่ดูก็ได้ค่ะ นอกจากจะช่วยประหยัดค่าเสื้อผ้าแล้วยังได้เสื้อผ้าชุดใหม่มาใส่ฟรี ๆ อีกต่างหาก
24. ลงทุนให้ถูกทาง
หากคุณกำลังมองช่องทางเสริมรายได้ด้วยการลงทุนกับธุรกิจบางอย่าง ลองหาวิธีลดต้นทุนของตัวเองให้ได้มากที่สุด เช่น ขายของผ่านโซเซียลเน็ตเวิร์ก หรือขายของทำมือที่ไม่ต้องไปซื้อต่อจากที่ไหน ฟันกำไรแบบเน้น ๆ ให้มากขึ้น
25. เล่นเกมชิงรางวัล
เดี๋ยวนี้มีสื่อมากขึ้นและการตลาดก็ทำในรูปแบบที่แปลกใหม่มากขึ้นด้วย อย่างตามหน้าเพจเฟซบุ๊กต่าง ๆ ที่มักจะแจกของรางวัล หนือแจกของสมนาคุณหากเราร่วมรายการกับเขา ของแบบนี้ลองส่งไปลุ้นขำ ๆ บ้างก็ได้ค่ะ เผลอ ๆ ได้ของรางวัลชิ้นใหญ่มาใช้แบบไม่ต้องควักกระเป๋าสักบาทก็ได้
เหนือสิ่งอื่นใดคุณเองก็ควรต้องมีวินัยในการใช้จ่ายเงิน บวกกับความตั้งใจในที่จะเก็บออมเงินด้วยนะคะ