แว่นตา กับสารพัดคำถามที่ควรรู้ก่อนใส่

คำถาม: มีปัญหาเรื่องค่าสายตาแต่ไม่อยากใส่แว่นติดตัวตลอด ทำได้หรือไม่ แล้วค่าสายตาจะเพิ่มขึ้นหรือไม่

คำตอบ: เมื่อมีปัญหาสายตา มีการแก้ไขได้หลายวิธี ขึ้นอยู่กับความสะดวกของผู้ใช้งาน เช่น การใส่คอนแทคเลนส์ มีข้อดีคือ มีความคล่องตัว ภาพที่มองเห็นเป็นธรรมชาติมากกว่าการใส่แว่น  แต่ก็มีข้อควรระวัง เรื่องการเลื่อนหลุด การรักษาความสะอาด หรือจะเลือกใส่แว่นตา เป็นวิธีที่สะดวกสบายที่สุดไม่ก่อให้เกิดปัญหาสุขภาพตา สามารถเลือกชนิดของกรอบแว่นตา ชนิดของเลนส์ให้สอดคล้องกับกิจกรรม อีกทั้งยังเป็นเครื่องประดับที่ทำให้ผู้สวมใส่ดูโดดเด่นมากขึ้นอีกด้วย ทั้งนี้การใส่แว่นทั้งวัน ทุกวันไม่ได้เป็นสาเหตุที่ทำให้สายตาเพิ่มขึ้น แต่ส่วนใหญ่เพิ่มขึ้นเกิดจากการใช้สายตาอย่างหนักหรือเพ่งมากกว่าปกติ

 
คำถาม: ใส่แว่นตาแล้วมักจะมีรอยตรงสันจมูก มีวิธีแก้ไขหรือไม่ อย่างไร

คำตอบ: จะต้องพิจารณาจากขนาดของกรอบแว่นตา วัสดุของแว่นตา และเลนส์ ซึ่งค่าสายตาก็มีส่วนสำคัญ ในกรณีที่มีค่าสายตากำลังเลนส์สูง ตัวเลนส์จะมีความหนาและหนัก จึงต้องเลือกขนาดของกรอบแว่นตาที่ไม่ใหญ่เกินไป และเลือกเลนส์ที่ย่อบางให้เหมาะสม เพื่อให้เแว่นตามีน้ำหนักน้อยลง 

 
คำถาม: ทำไมคนใส่แว่นส่วนใหญ่ แว่นมักจะตก จึงทำให้ต้องคอยดันและจับแว่นตลอดเวลา

คำตอบ: กรอบแว่นตานั้นก็จะมีขนาด(size) ซึ่งในการพิจารณาเลือกขนาด(size)นั้น ต้องดูจากรูปหน้าและค่าสายตาเป็นหลัก โดยผู้เชี่ยวชาญผู้ทำการตรวจวัดสายตา จะถือเอาเป็นข้อมูลสำคัญในการเลือกกรอบแว่นตาให้มีขนาด(size) สมดุลกับผู้สวมใส่ อีกทั้งจะมีการปรับแต่งกรอบแว่นเพียงเล็กน้อยแว่นสายตาก็จะเข้ากับรูปหน้าผู้สวมใส่ได้อย่างพอดีไม่มีตกหล่น

 
คำถาม: เลนส์ของแว่นมักเป็นรอยได้ง่าย ต้องคอยเช็ดเลนส์อยู่บ่อยๆ มีเลนส์พิเศษที่ไม่เป็นรอยง่ายหรือไม่

คำตอบ:  ปัจจุบันมีเลนส์ X-tra Clean (เอ็กซ์ตร้า คลีน โคทติ้ง) เลนส์เรียบลื่น ภาพใสคมชัด ไร้คราบ ตัวช่วยที่จะทำให้เลนส์ใสสะอาด ไร้คราบรบกวนการมองเห็นได้ตลอดวัน ด้วยเทคนิคการเคลือบเลนส์ทั้งด้านหน้าและหลังระดับพรีเมี่ยม จึงเป็นอีกทางเลือกหนึ่งสำหรับคนที่ไม่อยากให้เลนส์เป็นรอยง่าย

 
คำถาม: ใส่แว่นแล้ว ทำไมยังเห็นภาพไม่คมชัดพอ

คำตอบ: หากปัญหานี้เพิ่งเกิดกับแว่นตาที่ใส่มาเกิน 6 เดือน-1 ปีแล้ว อาจเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ เช่น อาจเกิดจากสายตาเอียง สายตาสั้น สายตายาว ที่น้อยเกินไปจึงไม่คมชัด อาจเกิดจากค่าพารามิเตอร์ต่างๆ บนแว่นตาที่ไม่เหมาะสม หรือเลนส์มีการเสื่อมสภาพก่อนเวลา และอีกสาเหตุที่กำลังเป็นอยู่มาก คือ เกิดจากการเพ่งระยะใกล้ๆนานเกินไป ก็เป็นอีกสาเหตุที่ทำให้การมองภาพผ่านเลนส์แว่นตาในระยะไกล ไม่คมชัด เหล่านี้ก็อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้ภาพที่มองภาพเลนส์เกิดความไม่คมชัดได้  แนะนำให้ตรวจวัดสายตาใหม่อีกครั้ง เพื่อให้แน่ใจถึงปัญหาที่เกิดขึ้นแล้ว แก้ไขให้ถูกวิธี

 
คำถาม: ทำไมจึงปวดหัว ปวดตา ปวดเบ้าตาบ่อยๆ ทั้งๆที่ใส่แว่นสายตาทำงานอยู่ตลอด

คำตอบ: อาการปวดศีรษะอันเนื่องมาจากสภาวะ Accommodation (การเพ่ง) เนื่องจากดวงตาพยายามที่จะโฟกัสภาพให้ชัดเจน ทำให้เกิดอาการเมื่อยล้าของดวงตา ซึ่งจะพบได้ ในกลุ่มที่มีการสายตายาว สายตาคนแก่  สายตาสั้น รวมทั้งสายตาเอียง การเพ่ง (accmmodation) อาจเกิดขึ้นได้ เมื่อมีการใช้สายตามองในระยะใกล้ เป็นเวลานานๆ โดยไม่ได้พักสายตาส่งผลให้เกิดอาการปวดตา ล้าตา ปวดเบ้าตา เห็นภาพซ้อน เพราะระบบ Motor (ระบบกล้ามเนื้อเส้นประสาท) ทำให้เกิดการทำงานที่ผิดปกติ ยิ่งหากมีปัญหาสายตาเอียงร่วมด้วย อาจส่งผลทำให้ปวดไมเกรนได้ ซึ่งมีวิธีแก้ไขหากเกิดสภาวะ Accommodation คือ

• พักสายตาจากระยะใกล้ โดยการมองไกลๆ ทุกชม. ชม.ละ 5 นาที
   
• แสงสว่างควรเพียงพอต่อการใช้สายตา
   
• ค่าสายตาที่ใช้อยู่ เหมาะสมหรือไม่ ต้องได้รับการตรวจวัดสายตา เพื่อดูว่าเป็นสายตาสั้น ยาว หรือเอียง
  การใส่และได้ใช้ค่าสายตาที่เหมาะสมกับการมองเห็น ส่งผลให้การล้าตา ปวดตา ลดน้อยลงได้

 
คำถาม: แว่นตา มีอายุการใช้งานแค่ไหน เมื่อใดควรมีการตัดแว่นใหม่

คำตอบ: โดยทั่วไป กรอบแว่นตามีอายุการใช้งานที่นานมาก ขึ้นอยู่กับการดูแลรักษาของผู้สวมใส่ แต่เลนส์แว่นตาจะมีอายุการใช้งานประมาณ 2-3 ปี ความใสของเลนส์ก็จะลดน้อยลง หรือสีของเลนส์ก็อาจจะเหลืองขึ้นได้

ลองพิจารณาดูนะคะ แว่นตาในปัจจุบันมีให้เลือกมากมายเพื่อรองรับกับความต้องการของผู้สวมใส่อีกทั้งยังช่วยเสริมบุคลิกภาพอีกด้วย ทั้งนี้เราต้องเลือกร้านตัดแว่นตา ที่ได้มาตรฐานที่จะช่วยแก้ไขปัญหาการมองเห็นได้อย่างแท้จริง มีบริการหลังการขาย มีผู้เชี่ยวชาญให้คำแนะนำการเลือกเลนส์ การใส่แว่นตาที่ถูกวิธี การดูแลรักษาแว่น ตลอดรวมถึงการซ่อมแซมแว่นตาที่ได้รับความเสียหาย เพื่อให้ได้แว่นตาที่มีคุณภาพเหมาะสมการใช้งานและเสริมบุคลิกภาพให้กับผู้สวมใส่