ราสเบอร์รี่ (Raspberry) มีผลสีแดง เนื้อนุ่ม มีรสชาติเปรี้ยวอมหวาน มีกลิ่นหอม ผลด้านในกลวง ซึ่งในประเทศไทยก็มีการเพาะปลูกบนภูเขาสูงเพราะมีอากาศหนาวเย็น เช่น จังหวัดน่าน จังหวัดลำปาง จังหวัดเลย จังหวัดเชียงใหม่ ราสเบอร์รี่เป็นผลไม้แสนอร่อยมีแคลอรี่ต่ำและยังมีประโยชน์มากมายอีกด้วย
วิตามินซีสูง
ราสเบอร์รี่มีรสชาติหอมหวาน ผลไม้ลูกเล็กๆแต่อุดมไปด้วยวิตามินซี ที่ช่วยในการต่อต้านอนุมูลอิสระในร่างกาย ชะลอการเกิดริ้วรอย บำรุงผิวพรรณ และช่วยสมานผิวหรือแผลต่างๆ ให้หายเร็วขึ้น
ป้องกันโรคมะเร็ง
ราสเบอร์รี่มีสารต้านอนุมูลอิสระที่เรียกว่า ไลโคปีน แคโรทีนอยสด์ และ แอนโทไซยานิน ช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคมะเร็งต่อมลูกหมาก มะเร็งกระเพาะอาหาร มะเร็งปอด
สารต้านอนุมูลอิสระสูง
ราสเบอร์รี่มีสารต้านอนุมูลอิสระในกลุ่มฟลาโวนอยด์ เช่น แอนโธไซยานิน, กรดเอลจิค (แทนนิน), เคอร์ซิติน, กรดแกลลิก,ไซยานิดิน, เพลาโกนิดิน, แคทีชิน จากการศึกษาทางวิทยาศาสตร์พบว่าสารต้านอนุมูลอิสระเหล่านี้มีความสำคัญในการช่วยรักษาโรคมะเร็ง, ลดริ้วรอย, บรรเทาการอักเสบและโรคเกี่ยวกับระบบประสาท
ไฟเบอร์สูง
ราสเบอร์รี่อุดมไปด้วยใยอาหารและสารต้านอนุมูลอิสระมากมาย ราสเบอร์รี่ 100 กรัม ให้พลังงาน 53 กิโลแคลอรี่แต่ให้ไฟเบอร์สูงถึง 6.5 กรัม ราสเบอร์รี่ยังมีน้ำตาลและแคลอรี่ต่ำจึงช่วยควบคุมน้ำหนักตัวได้
บำรุงสายตา
ราสเบอร์รี่ยังมีสารต้านอนุมูลอิสระในกลุ่มแคโรทีนอยด์ เช่น ลูทีน ซีแซนทีน และเบต้าแคโรทีน ช่วยป้องกันรังสีจากแสงแดดซึ่งเป็นอันตรายต่อดวงตา ป้องกันจอประสาทตาไม่ให้ถูกทำลาย ช่วยชะลอการเกิดต้อกระจก และป้องกันโรคจอประสาทตาเสื่อม
คุณค่าทางโภชนาการของ ราสเบอร์รี่ 100 กรัม
พลังงาน 52 กิโลแคลอรี
เส้นใยอาหาร 6.5 กรัม
วิตามินเอ 33 IU
วิตามินซี 26.2 มิลลิกรัม
วิตามินอี 1.42 มิลลิกรัม
วิตามินเค 7.8 ไมโครกรัม
วิตามินบี2 0.038 มิลลิกรัม
วิตามินบี3 0.598 มิลลิกรัม
วิตามินบี6 0.055 มิลลิกรัม
แคลเซียม 25 มิลลิกรัม
ธาตุเหล็ก 0.69 มิลลิกรัม
โพแทสเซียม 151 มิลลิกรัม
ทองแดง 90 มิลลิกรัม
แมกนีเซียม 22 มิลลิกรัม
สังกะสี 0.42 มิลลิกรัม
เบตาแคโรทีน 12 ไมโครกรัม
ลูทีน-ซีแซนทีน 136 ไมโครกรัม