ชาร์โคล ทำมาจากอะไร
โดยส่วนมากแล้วผงชาร์โคลจะทำมาจากกระบวนการเผาเปลือกมะพร้าวหรือเปลือกไม้เพื่อให้ได้ผงถ่านอนุภาคเล็กเพื่อนำไปใช้ในอุตสาหกรรมต่าง ๆ เช่น อุตสาหกรรมด้านพลังงาน อุตสาหกรรมผลิตหน้ากากคาร์บอนกรองแก๊สพิษ รวมไปถึงอุตสาหกรรมยา และในอุตสาหกรรมอาหาร ซึ่งเป็นเทรนด์มาสักระยะ
ชาร์โคล สรรพคุณดีอย่างไร
ในทางการแพทย์ Activated Charcoal หรือ Activated Carbon หรือที่เราคุ้นเคยกันในชื่อชาร์โคล มีสรรพคุณในการดูดสารพิษบางชนิด โดยเฉพาะสารพิษที่ก่อให้เกิดอาการท้องเสีย อย่างที่เราเห็นในรูปของยาถ่านแก้ท้องเสีย นอกจากนี้ในวงการแพทย์ยังใช้ชาร์โคลเพื่อช่วยผู้ป่วยที่กินยาเกินขนาดหรือมีสารพิษตกค้างในร่างกายเกินขนาดด้วยนะคะ
ชาร์โคลโดนแบน !?
แม้เมนูชาร์โคลกำลังรุ่งเรืองเฟื่องฟูในหลาย ๆ ประเทศรวมไปถึงบ้านเรา แต่ที่นครนิวยอร์ก องค์การอาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกา ได้สั่งระงับการจำหน่ายและวางขายอาหารที่มีส่วนผสมของชาร์โคลทุกชนิดเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยทาง FDA ระบุว่า ชาร์โคลมีส่วนขัดขวางการดูดซึมตัวยาในร่างกาย
ดังนั้นคนที่ต้องกินยาเป็นประจำอย่างผู้มีโรคประจำตัว หรือผู้หญิงที่รับประทานยาคุมกำเนิด อาจได้รับผลกระทบจากผงถ่านชาร์โคลที่ผสมอยู่ในอาหารได้ โดยเฉพาะหากกินชาร์โคลเกิน 2 ครั้งต่อสัปดาห์ หรือกินทุกวัน จากอาหารชนิดไหนก็ตาม
ทั้งนี้เหตุผลที่ FDA สั่งห้ามใช้ผงถ่านชาร์โคลในอาหาร ก็เนื่องจากกังวลว่า ประสิทธิภาพในการดูดซึมยาของร่างกายในผู้ที่ต้องกินยาเป็นประจำจะลดลง ส่งผลให้ประสิทธิภาพของยาลดลง ยาไม่ได้ทำหน้าที่รักษาโรคอย่างเต็มศักยภาพ จนเป็นเหตุให้การป้องกันหรือรักษาโรคด้วยตัวยาที่กินเข้าไปไม่ได้ผลอย่างที่ควร
ดังนั้น ด้วยคุณสมบัติดูดซับสารพิษและอาจจะดูดซับยาบางชนิดของชาร์โคล ก็อาจเป็นเหตุผลหลักที่ทำให้ FDA สั่งระงับการใช้ผงชาร์โคลผสมในอาหาร ทว่าในประเด็นอันตรายจากชาร์โคลในข้ออื่น ๆ ยังไม่เป็นที่แน่ชัด และยังคงอยู่ในระหว่างทำการวิจัยเพื่อหาข้อสรุปต่อไป
ส่วนในบ้านเรายังไม่มีกระแสสั่งห้ามขายอาหารผสมชาร์โคลแต่อย่างใด ทว่าเพื่อความปลอดภัยก็อยากแนะนำให้รับประทานอาหารที่มีส่วนผสมของชาร์โคลในปริมาณที่เหมาะสม เพราะอะไรที่มากเกินไปก็ไม่ส่งผลดีต่อร่างกาย ที่สำคัญชาร์โคลไม่ใช่สารอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกายคนปกติเท่าไรค่ะ นอกจากหากท้องเสีย หมอสั่งยาถ่านมาให้กิน เคสนี้ก็จะได้ใช้สรรพคุณของผงถ่านชาร์โคลกันไปเต็ม ๆ
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
observer
realsimple
dailymail
ny.eater