1. มีแผลในจมูก
แผลในจมูกที่ว่าก็อาจจะเป็นสิว หรือแผลที่เกิดจากรอยถลอกในตอนที่เราใช้มือแคะขี้มูก ซึ่งหากมีอาการเจ็บเล็ก ๆ และมีน้ำมูกปนเลือดออกมาไม่ได้บ่อยนัก ไม่มีอาการปวดใบหน้าร่วมด้วย เคสนี้อาจไม่ต้องถึงมือหมอ เพียงแต่พยายามอย่าแคะ แกะ เกา ในรูจมูกอีก เพื่อเลี่ยงการติดเชื้อนะคะ
2. สิ่งแปลกปลอมเข้าจมูก
เคสนี้มักพบในเด็กเล็กวัยกำลังซน ที่มักจะหยิบของ เช่น เมล็ดผลไม้ เศษยางลบ ลูกปัด ดิน ของเล่นชิ้นเล็ก ๆ หรือเศษกระดาษ เป็นต้น ใส่ปาก ใส่จมูกตัวเองด้วยความไร้เดียงสา ซึ่งอาจก่อให้เกิดอาการคัดแน่นจมูกอยู่ข้างหนึ่ง และมีน้ำมูกข้นปนเลือด ปนหนองไหลออกจากจมูกข้างที่มีสิ่งแปลกปลอมอยู่ด้านใน ดังนั้นหากผู้ปกครองพบเห็นอาการเหล่านี้จากบุตรหลาน ควรรีบพาเขาไปรักษากับแพทย์นะคะ
3. เยื่อบุจมูกบวม
ภาวะเยื่อบุโพรงจมูกบวม เกิดขึ้นได้จากอาการไข้หวัดธรรมดา หรืออาจเป็นสัญญาณบอกโรคไซนัสอักเสบก็เป็นได้ โดยหากสั่งน้ำมูกแรง เยื่อบุโพรงจมูกที่บวมอยู่เป็นแผล เส้นเลือดฝอยในโพรงจมูกแตก อาจมีน้ำมูกปนเลือดออกมาด้วย
ทั้งนี้ เราสามารถแยกโรคได้ว่า อาการน้ำมูกปนเลือดที่เป็นอยู่ใช่ไข้หวัดธรรมดา หรือเป็นไซนัสอักเสบ ซึ่งหากเป็นเพียงหวัดธรรมดา มีน้ำมูกใส ๆ ปนเลือดในบางที โดยเฉพาะตอนสั่งน้ำมูกแรง ๆ ร่วมกับมีอาการจามบ่อยเมื่ออากาศเปลี่ยน เคสนี้อาจสันนิษฐานได้ว่าเป็นเยื่อบุจมูกบวมจากการแพ้อากาศ แต่ทางที่ดีที่สุดคือพบหมอเพื่อรับยารักษาที่ถูกกับอาการจะดีกว่าค่ะ
สำหรับคนที่มีอาการน้ำมูกเป็นเลือดปน มีหนองปนน้ำมูกออกมา หายใจมีกลิ่นเหม็น เป็นหวัด ไอ จาม ร่วมกับอาการปวดหน่วง ๆ บริเวณหน้าผากและใต้ตาบ่อย ๆ (เกือบทุกวัน) พร้อมกับน้ำมูกมีเป็นเลือดบ้าง น้ำมูกมีสีเขียวหรือปนหนองบ้าง สันนิษฐานได้เบื้องต้นว่าเป็นไซนัสอักเสบ และควรไปรับการรักษากับแพทย์โดยตรง
4. ริดสีดวงจมูก
มักพบในผู้ที่มีการอักเสบเรื้อรังของเยื่อบุจมูก จากการติดเชื้อหรือหวัดภูมิแพ้เรื้อรัง เกิดเป็นติ่งเนื้อเมือกขึ้นในโพรงจมูกข้างใดข้างหนึ่ง ทำให้เกิดการอุดกั้นทางเดินหายใจ มีอาการคัดแน่นจมูกตลอดเวลาในโพรงจมูกข้างนั้นเพียงข้างเดียว พูดเสียงขึ้นจมูก
รวมไปถึงอาจไม่มีความรู้สึกในการรับรู้กลิ่น น้ำมูกออกเป็นหนอง ปนเลือด หรือปวดที่หัวคิ้วหรือโหนกแก้มร่วมด้วย เมื่อใช้ไฟส่องดูในโพรงจมูกข้างนั้น อาจมองเห็นก้อนเนื้อสีขาวใส ซึ่งเคสนี้ต้องทำการรักษาต่อเนื่องกับแพทย์เฉพาะทางนะคะ
5. มะเร็งหลังโพรงจมูก
หากมีอาการแน่นจมูก หายใจไม่ค่อยสะดวก มีน้ำมูกไหลลงคอเรื้อรัง ที่สำคัญมีน้ำมูกปนเลือดบ่อยครั้ง ร่วมกับมีอาการชาที่ใบหน้า มองเห็นภาพซ้อน คลำได้ก้อนบริเวณลำคอ บ่งชัดว่าอาการสั่งน้ำมูกมีเลือดปนของคุณมีเบื้องลึกเบื้องหลังที่น่ากังวล เช่น โรคมะเร็งหลังโพรงจมูก เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม หากมีอาการหวัดเรื้อรัง มีน้ำมูกไม่ว่าจะปนเลือดหรือเป็นสีอื่น แบบไม่ยอมหายสักที อาการนี้ยังไงก็ไม่น่าจะใช่โรคหวัดปกตินะคะ ฉะนั้นอย่านิ่งเฉย ควรรีบไปพบแพทย์เพื่อหาสาเหตุของอาการน้ำมูกมีเลือดปน จะได้รักษาอย่างถูกทาง หายขาดได้จริง ๆ
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล
โรงพยาบาลพระรามเก้า