เป็นที่รู้กันค่ะ "วิตามินซี" นั้นมีประโยชน์และจำเป็นต่อร่างกายอย่างมาก สำหรับทุกคนทุกเพศทุกวัย ซึ่งสามารถพบได้ในอาหารจำพวกผักและผลไม้สด นอกจากนั้นยังมีทางเลือกจำพวกอาหารเสริม วางจำหน่ายให้เลือกหามารับประทานได้อย่างแพร่หลาย เหมาะสำหรับผู้ที่พิจารณาแล้วว่าได้รับวิตามินซีจากแหล่งอาหารได้ไม่เพียงพอ เพราะทุกคนรู้ดีว่าวิตามินซี รับประทานเพื่อส่งเสริมให้มีสุขภาพดีได้ ป้องกันการเจ็บป่วยบ่อยๆ ที่สำคัญยังเป็นตัวช่วยที่ดีในเรื่องของความสวยความงามที่สาวๆ อย่างเรา ไม่ควรพลาดเลยทีเดียว ทั้งนี้วิตามินซีจะมีประโยชน์อย่างไร และ ดีต่อผู้หญิงอย่างเราอย่างไรบ้าง พลาดไม่ได้เลยนะคะ
มารู้จักวิตามินซีกันค่ะ
“วิตามินซี” เป็นวิตามินประเภทที่สามารถละลายตัวในน้ำได้ ทำให้ร่างกายไม่สามารถเก็บกักวิตามินซีเอาไว้ใช้ในร่างกายในระยะยาวได้ ทำให้จำเป็นที่จะต้องได้รับวิตามินซีจากภายนอกอย่างสม่ำเสมอ ผ่านทางอาหารที่กินในชีวิตประจำวันนั่นเอง ซึ่งเมื่อวิตามินซีสามารถละลายน้ำได้ จึงทำให้สามารถถูกขับออกได้อย่างง่ายดายทางปัสสาวะ ทำให้วิตามินซี เป็นหนึ่งในวิตามินบำรุงผิวที่ไม่อันตราย ไม่สะสมในร่างกาย ถึงแม้จะรับประทานเข้าไปมากเท่าใดก็ตาม และการรับประทานอาหารประเภทผัก และผลไม้ที่มีรสเปรี้ยว เช่น มะนาว ส้ม หรืออาจจะได้รับวิตามินซีปริมาณสูงๆจากยา หรือผลิตภัณฑ์อาหารเสริม
ซ่อมแซมเนื้อเยื่อทุกส่วนในร่างกาย
มีส่วนช่วยในการซ่อมแซมเนื้อเยื่อทุกส่วนในร่างกาย ไม่ว่าจะเป็นเนื้อเยื่อของผิวหนัง เส้นเอ็น เส้นเลือด โดยวิตามินซีนั้นจะช่วยทำให้อวัยวะเหล่านี้ไม่เปราะ ป้องกันความเสื่อม ยืดหยุ่น และแข็งแรงมากขึ้น
บรรเทาอาการของไมเกรน
การรับประทานวิตามินซีร่วมกับ กรดแพนโทเธนิค (Pantothenic Acid) จะช่วยป้องกันอาการปวดไมเกรนได้ดียิ่งขึ้น
กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในร่างกาย
วิตามินซีถือเป็นสารอาหารที่ช่วยเพิ่มการสังเคราะห์คอลลาเจนในชั้นผิว การรับประทานวิตามินซีเป็นประจำ มีผลทำให้ร่างกายกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนที่ผิวหนัง ส่งผลให้ผิวหนังแน่น เต่งตึง และมีความยืดหยุ่นดี
ช่วยลดการเกิดริ้วรอยก่อนวัย
วิตามินซีอุดมไปด้วยสารต่อต้านอนุมูลอิสระชั้นดี มีความสามารถช่วยชะลอความเสื่อมของร่างกายเอาไว้ได้ดี ช่วยลดการทำงานของเอนไซม์ที่ผลิตเม็ดสีผิว จึงทำให้สามารถช่วยลดการเกิดริ้วรอย ผิวหนังเหี่ยวย่นก่อนวัยอันควรได้ดี
ผิวพรรณสดใส เปล่งปลั่ง
นอกจากจะช่วยลดการเกิดริ้วรอยก่อนวัย การรับประทานวิตามินซีอย่างน้อยวันละ 1,000 มิลลิกรัม จะส่งผลช่วยทำให้ผิวพรรณสดใสเปล่งปลั่ง ดูขาวกระจ่างใส ดํเปล่งประกายออร่าอย่างเห็นได้ชัดขึ้น
ลดการอักเสบสิว ช่วยให้หายเร็ว
ด้วยคุณสมบัติที่วิตามินซี มีส่วนช่วยในการซ่อมแซมเนื้อเยื่อทุกส่วนในร่างกาย จึงช่วยให้แผลตามร่างกายหายเร็วขึ้น รวมถึงเป็นสิวอักเสบ รอยแผลเป็นต่างๆ จากแผล จากสิว และจุดด่างดำต่างๆ ให้หายเร็วขึ้น พร้อมทั้งช่วยฟื้นฟูผิวให้กลับมาเรียบเนียนและดูสดใสมากขึ้นด้วย
ปกป้องผิวและฟื้นฟูผิวคล้ำเสียจากแดด
นอกจากว่าวิตามินซีช่วยบำรุงให้โครงสร้างผิวแข็งแรงสมบูรณ์ แล้วยังช่วยกระตุ้นให้ผิวที่กำลังอ่อนแอไหม้เสียจากแสงแดด เกิดการฟื้นฟูให้กลับมาแข็งแรงได้อย่างรวดเร็ว สำหรับใครที่มีปัญหาผิวคล้ำเสียจากแดด แนะนำให้ทาครีมที่มีส่วนผสมของวิตามินซีพร้อมๆ กับรับประทานวิตามินซีไปพร้อมๆ กัน ด้วยนะคะ
เสริมสร้างภูมิคุ้มกันของร่างกายให้แข็งแรง
สารต้านอนุมูลอิสระในวิตามินซี ปกป้องเซลล์จากการอักเสบ และเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้แก่ร่างกาย ช่วยป้องกันและรักษา เลือดออกตามไรฟัน ลักปิดลักเปิด สังเกตได้ว่าการรับประทานวิตามินซีเป็นประจำ จะไม่เกิดโรคภัยไข้เจ็บต่างๆ ได้ง่าย โดยเฉพาะโรคหวัด นอกจากนี้หากว่ามีอาการป่วยแล้วล่ะก็ ยังช่วยให้หายป่วยได้เร็วยิ่งขึ้นอีกด้วย
ลดระดับคอเลสเตอรอลในเส้นเลือด
วิตามินซีจะช่วยลด และควบคุมระดับคอเลสเตอรอลในเลือด ให้อยู่ในระดับปกติ และลดการเกิดเส้นเลือดอุดตันในหลอดเลือดดำ และถ้าหากรับประทานร่วมกับวิตามินอี ก็จะยิ่งช่วยลดการเกาะตัวของไขมันที่ผนังเส้นเลือดได้ดีมากยิ่งขึ้น
ลดความเสี่ยงและป้องกันการเกิดโรคมะเร็ง
วิตามินซีจะช่วยต่อต้านการสร้างสารไนโตรซามีน (สารก่อมะเร็ง) ดังนั้นใครที่รับประทานวิตามินซี ร่วมกับสารอาหารครบทั้ง 5 หมู่ เป็นประจำ จะสามารถลดอัตราความเสี่ยง และป้องกันการเกิดโรคมะเร็งได้เกือบทุกชนิดเลยทีเดียว
ขนาดรับประทาน ตามคำแนะนำจาก U.S. Food and Nutrition Board of the institute of Medicine
1. ผู้ใหญ่ (อายุ 18 ปีขึ้นไป)
ปริมาณที่ควรใช้สำหรับผู้ชายอายุ 18 ปีขึ้นไปคือ 90 มิลลิกรัมต่อวัน
- สำหรับผู้ใหญ่อายุ 18 ปีขึ้นไป ควรรับประทานที่ปริมาณ 75 มิลลิกรัมต่อวัน
- หญิงอายุ 18 ปีขึ้นไปและอยู่ระหว่างการตั้งครรภ์ ควรรับที่ 85 มิลลิกรัมต่อวัน
- หญิงอายุ 18 ปีขึ้นไปและอยู่ระหว่างการให้นมบุตร ควรรับที่ 120 มิลลิกรัมต่อวัน
- ผู้ที่สูบบุหรี่ ควรได้รับเพิ่มขึ้นอีก 35 มิลลิกรัมต่อวัน
*** ปริมาณมากที่สุดที่สามารถรับประทานได้คือไม่เกิน 2,000 มิลลิกรัมต่อวัน ในผู้ชายและผู้หญิงอายุเกิน 18 ปีขึ้นไป (รวมถึงหญิงตั้งครรภ์และให้นมบุตร)
2. เด็ก (อายุต่ำกว่า 18 ปี)
- เด็กอายุ 9-13 ปี ใช้ที่ปริมาณ 45 มิลลิกรัมต่อวัน และไม่ควรเกิน 1200 มก.ต่อวัน
- เด็กชายอายุ 14-18 ปี ใช้ที่ปริมาณ 75 มิลลิกรัมต่อวัน และไม่ควรเกิน 1000 มก.ต่อวัน
- เด็กหญิงอายุ 14-18 ปี ใช้ที่ปริมาณ 65 มิลลิกรัมต่อวัน
- เด็กหญิงอายุ 14-18 ปี อยู่ในช่วงตั้งครรภ์ ใช้ที่ปริมาณ 80 มิลลิกรัมต่อวัน
- เด็กหญิงอายุ 14-18 ปี อยู่ในช่วงให้นมบุตร ใช้ที่ปริมาณ 115 มิลลิกรัมต่อวัน
คำเตือนในการใช้วิตามินซี
- ถึงแม้วิตามินซีเป็นวิตามินที่ร่างกายไม่สามารถเก็บกักไว้ใช้งานได้ และหากได้รับวิตามินซีมากเกินไปก็จะถูกขับออกมาทางปัสสาวะก็ตาม แต่หากรับประทานวิตามินซีจำนวนมากติดต่อกันหลายวัน ก็อาจจะทำให้มีอาการท้องเสีย กระเพาะอาหารระคายเคืองได้
- หากร่างกายได้รับวิตามินซีในปริมาณมากจนเกินไป อาจนำไปสู่โรคเกาต์ได้ เนื่องจากวิตามินซีทำหน้าที่เพิ่มการดูดซึมธาตุเหล็ก ซึ่งจะส่งผลโดยตรงต่อการดูดซึมธาตุเหล็กตามข้อกระดูก
- มีอัตราความเสี่ยงเป็นโรคนิ่วในไตมากขึ้น
Tip : อาหารที่อุดมไปด้วยวิตามินซีในปริมาณสูงก็คือ ผักและผลไม้สด โดยเฉพาะผลไม้รสเปรี้ยว อย่างเช่น พริกหวาน สีเขียว สีแดง กระหล่ำปลี กระหล่ำดอก มะเขือเทศ ผักใบเขียว บล็อคโคลี่ มันฝรั่ง มันเทศ ส้ม ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่
ปัจจุบันค่านิยมในการรักสุขภาพและความสวยงามมากขึ้น มีผลให้คนเรานิยมหันมารับประทานอาหารเสริมต่างๆ มากขึ้น โดยเฉพาะวิตามินซี แต่เพื่อให้ร่างกายได้รับประโยชน์อย่างสูงสุด และไม่ส่งผลเสียต่อสุขภาพ ก็ควรรับประทานในปริมาณที่พอเหมาะด้วยนะคะ