1. เปลี่ยนพฤติกรรมการกินอาหารเช้า
อาหารเช้าสำคัญก็จริง แต่ถ้าอยากลดน้ำหนักใช่ว่าเราจะกินอะไรก็ได้ค่ะ แนะนำว่าให้กินธัญพืช 1 ถ้วยคู่กับนมอัลมอนด์ หรือโยเกิร์ตกับผลไม้ประเภทเบอร์รี่ แทนที่จะเลือกกินข้าวเหนียวหมูปิ้งหรืออาหารไขมันสูง เพราะจะช่วยให้ย่อยง่ายขึ้น
2. มื้อกลางวันให้เน้นอาหารโปรตีนสูง
สำหรับมื้อกลางวันแนะนำให้กินอาหารที่แคลอรีต่ำ แต่ให้โปรตีนสูงเป็นหลักค่ะ เช่น อกไก่ อาจจะกินคู่กับแตงกวาและมะเขือเทศ หรือจะเพิ่มไข่ต้ม 2 ฟอง และแครอทต้มอีกสักนิดก็ได้เช่นกัน อกไก่เป็นอาหารที่ไขมันน้อย แถมแคลอรีต่ำ อีกทั้งยังย่อยง่ายอีกด้วย ซึ่งเหมาะกับคนที่ต้องการลดน้ำหนักแบบสุดๆ
3. กินของว่าง 2 มื้อต่อวัน
การกินของว่างระหว่างวันจะช่วยให้ระบบย่อยอาหารได้ทำงานอย่างเต็มที่ค่ะ แต่ของว่างที่ว่านี่ไม่ใช่ขนมขบเคี้ยวที่แคลอรีสูงนะคะสาวๆ ควรเน้นกินเป็นผลไม้ เช่น เบอร์รี่ทั้งหลาย หรือถ้าอยากหวาน อยากกินขนม ควรเลือกเป็นเจลาตินที่เป็นแบบ Sugar-Free, ธัญพืชอบกรอบ หรืออัลมอนด์ แทนค่ะ เพราะช่วยให้อิ่มอยู่ท้อง แถมไม่อ้วนด้วย!
4. กินอาหารเย็นที่มีแคลอรีต่ำ
อาหารเย็นถือเป็นตัวการสำคัญที่ทำให้อ้วนได้ง่ายๆ เลยค่ะ เพราะฉะนั้นควรเลือกกินอาหารเย็นที่มีแคลอรีต่ำ โดยปริมาณแคลอรีของอาหารมื้อเย็นควรน้อยที่สุดรองจากมื้อเช้า และมื้อกลางวัน คิดง่ายๆ คือ มื้อเช้าควรจะได้รับพลังงานประมาณ 40 เปอร์เซ็นต์ (ประมาณ 700 กิโลแคลอรี) มื้อเที่ยง 35 เปอร์เซ็นต์ (ประมาณ 600 กิโลแคลอรี) และมื้อเย็น 25 เปอร์เซ็นต์ (ประมาณ 500 หรือ 400 กิโลแคลอรี) และที่สำคัญควรกินมื้อเย็นก่อนเข้านอน 4-6 ชั่วโมงนะคะ
5. ลดการกินโซเดียมให้น้อยลง
แม้ว่าเกลือและน้ำปลา หรือเครื่องปรุงทั้งหลายจะทำให้รสชาติอาหารอร่อยขึ้น แต่การกินโซเดียมมากเกินไป จะทำให้เราตัวบวมได้ง่ายๆ ! ฉะนั้นอาหารที่เราปรุงเองควรลดเกลือหรือโซเดียมให้น้อยลงค่ะ
6. ลดการกินน้ำตาล
เหล่าเครื่องดื่มทั้งหลายที่มีน้ำตาล ไม่ว่าะเป็นน้ำอัดลม ชานมไข่มุก หรือกาแฟ/ชาใส่น้ำตาล หรือแม้กระทั่งสารแทนความหวานต่างๆ ควรกินให้น้อยลงค่ะ เพราะน้ำตาลคือคาร์โบไฮเดรตชนิดหนึ่ง ซึ่งจะถูกแปรเปลี่ยนไปเป็นไขมันสะสมในที่สุด น้ำตาลจึงเป็นอีกหนึ่งสาเหตุของความอ้วนที่เห็นผลชัดมากๆ !
7. เพิ่มผักในทุกมื้อ
การมีระบบย่อยอาหาร การขับถ่ายที่ดี จะช่วยให้การลดน้ำหนักได้ผลเร็วมากขึ้นค่ะ ซึ่งการเพิ่มผักใบเขียวหรือไฟเบอร์เข้าไปในทุกมื้ออาหารจะช่วยให้ระบบย่อยอาหารของเราดีขึ้น ทั้งยังช่วยให้ระบบการขับถ่ายทำงานได้เป็นระบบมากขึ้นด้วย ถ้าระบบย่อยดีขับถ่ายคล่อง รับรองว่าพุงแบนๆ อยู่ไม่ไกลเกินเอื้อมค่า
8. กระโดดเชือกทุกวันวันละ 20 นาที
กระโดดเชือก เป็นวิธีออกกำลังกายที่ลดน้ำหนักได้ดีสุดๆ ค่ะ เพราะการกระโดดเชือกเพียง 15 นาที เทียบเท่ากับการวิ่งออกกำลังกาย 30 นาทีเลยล่ะ! โดยการกระโดดเชือกในแต่ละวัน แนะนำให้กระโดดครั้งละ 10 นาที วันละ 2 ครั้ง
9. คาร์ดิโอวันละ 20 นาที
นอกจากการกระโดดเชือกแล้ว การออกกำลังกายแบบคาร์ดิโออื่นๆ ยังช่วยเผาผลาญได้ดีเช่นกันค่ะ ไม่ว่าจะเป็นการวิ่งบนลู่วิ่ง หรือวิ่งบนถนน ทั้งนี้แนะนำให้วิ่งวันละ 20 นาทีค่ะ โดยการวิ่งจะช่วยเพิ่มอัตราการเต้นของหัวใจ ทำให้ระบบไหลเวียนเลือดมีการสูฉีด ร่างกายเกิดการเผาผลาญ เปลี่ยนน้ำตาลไปเป็นไขมัน และช่วยลดการสะสมไขมันในส่วนอื่นได้เป็นอย่างดี!
10. ดื่มน้ำมะนาวทุกเช้า
นอกจากอาหารแล้ว น้ำก็เป็นเรื่องสำคัญที่ทำให้การลดน้ำหนักมีประสิทธิภาพมากขึ้นค่ะ โดยแนะนำว่า ให้ดื่มน้ำอุ่นโดยใส่มะนาวฝานลงไปด้วยในตอนเช้าของทุกวัน การดื่มน้ำมะนาวแบบนี้ทุกเช้า จะช่วยดีท็อกซ์และเผาผลาญไขมันได้ดีขึ้น!
11. หันมาฝึกโยคะเป็นประจำ
โยคะไม่เพียงช่วยคลายกล้ามเนื้อ คลายอาการปวดเมื่อยเท่านั้นค่ะสาวๆ แต่โยคะยังช่วยกระชับกล้ามเนื้อไม่ว่าจะเป็นหน้าท้อง ต้นขา หรือแขนได้ดีอีกด้วย แถมโยคะบางท่ายังสามารถช่วยกระตุ้นระบบขับถ่าย ทำให้เราขับถ่ายได้เป็นปกติขึ้นอีกด้วยล่ะค่า
12. นอนให้ครบ 8 ชั่วโมง
เป็นวิธีง่ายๆ แต่ได้ผลจริงๆ ค่ะ เพราะการอดนอนจะทำให้ฮอร์โมนในร่างกายเกิดการเปลี่ยนแปลง ซึ่งนั่นส่งผลให้เราอ้วนขึ้นได้! โดยการนอนอย่างน้อย 8 ชั่วโมงต่อวันจะช่วยควบคุมระดับน้ำตาลและควบคุมการสะสมไขมัน ส่งผลให้การลดน้ำหนักมีประสิทธิภาพมากขึ้นนั่นเอง!