พาสปอร์ต 10 ปี รุ่นใหม่ สำหรับผู้บรรลุนิติภาวะ เริ่มใช้กลางปี 63

นางสาวบุษฎี สันติพิทักษ์ อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ เปิดเผยว่า ประชาชนจะได้เห็นโครงการ “หนังสือเดินทางประเทศไทย” หรือ “พาสปอร์ตอิเล็กทรอนิกส์” โดยเฉพาะการเริ่มใช้หนังสือเดินทาง หรือ พาสปอร์ตอิเล็กทรอนิกส์รุ่นใหม่ล่าสุด ในช่วงกลางปี 2563 ซึ่งจะมีรายละเอียดของพาสปอร์ตที่แตกต่างจากเดิม และเราได้สรุปเรื่องน่ารู้มาไว้ให้เพื่อนๆ นักเดินทางคร่าวๆ ดังนี้เลยจ้า…

• มีการเพิ่มอายุพาสปอร์ต จากเดิม 5 ปี เป็น 10 ปี (แต่ยังไม่ยกเลิกแบบ 5 ปี) โดยผู้ทำพาสปอร์ตสามารถเลือกได้ ว่าต้องการพาสปอร์ตแบบอายุใช้งาน 5 ปี หรือ 10 ปี
• พาสปอร์ตอายุ 10 ปี ให้สิทธิ์เฉพาะผู้บรรลุนิติภาวะเท่านั้น เพื่ออำนวยความสะดวกต่อผู้ที่ไม่ค่อยเดินทาง และเนื่องจากใบหน้าของเยาวชนมีการเปลี่ยนแปลงทุก 1-2 ปี
• พาสปอร์ตรุ่นใหม่ จะมีการเพิ่ม “ระบบสแกนม่านตา” จากเดิมที่มีข้อมูลอัตลักษณ์ส่วนบุคคลแค่ใบหน้าและลายนิ้วมือ
• การยื่นคำร้องทำพาสปอร์ต จะใช้เวลาทำเร็วขึ้น ไม่เกิน 12 นาที (จากเดิม 20 นาที)
• จะมีระยะเวลาได้รับเล่มจากเดิม 2-3 วัน ลดเหลือเพียง 1 วัน
• มีการเพิ่มสำนักงานหนังสือเดินทางชั่วคราว 15 จุดทั่วประเทศ
• ค่าธรรมเนียมการทำ พาสปอร์ตรุ่นใหม่ อาจมีการเปลี่ยนแปลงจากราคาปัจจุบัน (ปัจจุบันราคา 1,000 บาท)

ก็ถือว่าเป็นข่าวดีสำหรับคนชอบเที่ยวที่จะได้ใช้พาสปอร์ตเล่มที่มีได้นานขึ้นโดยไม่ต้องไปทำบ่อยๆ และนอกเหนือจากข่าวดีเรื่องการทำ พาสปอร์ต 10 ปี รุ่นใหม่แล้ว เราก็มีข้อควรระวังเกี่ยวกับการใช้พาสปอร์ตมาฝากกันด้วย

ข้อควรระวังเกี่ยวกับการใช้พาสปอร์ต

1. ห้ามปั๊มตราหรือขีดเขียนใดๆ ลงในหน้าพาสปอร์ตเด็ดขาด!

อย่างที่เราเคยเห็นจากข่าวที่นักท่องเที่ยวชาวไทยไปเที่ยวญี่ปุ่นแล้วชอบปั๊มตราที่ระลึกจากสถานที่เที่ยวต่างๆ ไว้ในพาสปอร์ต แต่เมื่อใช้เดินทางไปยังประเทศอื่นต่อกลับถูกสายการบินปฏิเสธการเช็กอิน หรือตม.ในหลายประเทศก็กักตัวไว้ และปฏิเสธการผ่านเข้าประเทศ เพราะว่าการปั๊มตราใดๆ ที่ไม่ใช่ตราที่ออกโดยตม. ถือว่าพาสปอร์ตเล่มนั้นชำรุด และใช้งานไม่ได้อีกต่อไป ดังนั้น ถ้าไม่อยากให้เกิดกับตัวเอง อย่าทำเด็ดขาด!

หนังสือเดินทาง หรือพาสปอร์ต เป็นเอกสารสำคัญทางราชการที่ใช้เพื่อยืนยันตัวตนในการเดินทางไปต่างประเทศ และในหนังสือเดินทางต้องมีเพียงตราประทับของราชการเท่านั้น ห้ามขีดเขียนหรือปั๊มตราอื่นๆ ลงไป เพราะจะถือว่าหนังสือเดินทางชำรุด ทำให้มีสิทธิ์ถูกปฏิเสธการเข้าประเทศ และอาจถึงขั้นร้ายแรงจนถูกห้ามเข้าประเทศ (Blacklist) ไปเลยก็ได้

2. หน้าปกพาสปอร์ตถลอกหรือหลุดลอก จนตัวหนังสือและตราครุฑหาย จะใช้งานต่อไม่ได้

ใครที่เดินทางบ่อย หรือไม่ค่อยได้เดินทางจนเก็บพาสปอร์ตไว้นานๆ หน้าปกพาสปอร์ตที่เป็นตัวหนังสือและตราครุฑก็อาจเกิดการหลุดลอก เลือนหายไปบ้าง แต่ในกรณีที่ตราครุฑและตัวหนังสือสีทองบนหน้าปกพาสปอร์ตหลุดลอกหายไปทั้งหมด จะถือว่าพาสปอร์ตเล่มนั้นใช้งานต่อไม่ได้ เพราะฉะนั้นต้องมีการดูแลรักษาพาสปอร์ตให้ดี ไม่ให้มีการชำรุดเสียหาย ก่อนจะเดินทางไปต่างประเทศก็ต้องตรวจสอบและเตรียมพาสปอร์ตเอาไว้ หากรายละเอียดบนหน้าปกพาสปอร์ตของใครเลือนหายจนไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นพาสปอร์ตจากประเทศอะไร ก็ต้องไปทำเล่มใหม่ไว้เลยค่ะ

และนี่ก็เป็นข่าวสารอัพเดตและข้อควรระวังในการใช้พาสปอร์ตสำหรับนักท่องเที่ยวทุกคนที่พี่เห็ดนำมาฝากกัน ก่อนเดินทางไปต่างประเทศทุกครั้งอย่าลืมเช็คว่าพาสปอร์ตของเรายังใช้งานได้หรือไม่ เพราะพาสปอร์ตถือเป็นเอกสารทางราชการที่สำคัญ ควรดูแลรักษาให้ดีที่สุด จะได้เริ่มต้น เที่ยวต่างประเทศ อย่างมีความสุขกันทุกคนนะคะ